ทำความรู้จักคำว่า “ค่าเงินแข็ง” และ “ค่าเงินอ่อน”

ทำความรู้จักคำว่า “ค่าเงินแข็ง” และ “ค่าเงินอ่อน”

แชร์บทความนี้

สนใจอัพสกิล
ไปกับเรา

ช่วงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าการลงทุนมีอะไรบ้างที่น่าสนใจในภาวะที่ตลาดการเงินกำลังผันผวน? โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับค่าเงินบาทที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เทรดเดอร์และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเงินระหว่างประเทศต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลต่อธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคน

อัตราแลกเปลี่ยนคืออะไร

อัตราแลกเปลี่ยนคือการกำหนดมูลค่าระหว่างเงินสองสกุล เมื่อมีการค้าขายกับต่างประเทศที่ใช้สกุลเงินแตกต่างกัน จำเป็นต้องมีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้สามารถเทียบมูลค่าระหว่างกันได้ การเปรียบเทียบนี้ไม่ได้อ้างอิงจากขนาดของประเทศหรือเศรษฐกิจ แต่พิจารณาจาก “อำนาจซื้อที่แท้จริง” ของเงินแต่ละสกุลในการซื้อสินค้าหรือบริการ

ค่าเงินแข็ง คืออะไร

ค่าเงินแข็ง คือ สภาวะที่เงินสกุลนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่า หมายถึงเงินบาทมีค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น เช่น หากเมื่อวานใช้เงิน 35 บาทแลกได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่วันนี้ใช้เพียง 33 บาทก็แลกได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แสดงว่าเงินบาทมีค่ามากขึ้นหรือแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

สาเหตุที่ทำให้ค่าเงินแข็ง

  • ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มขึ้น
  • อัตราดอกเบี้ยในประเทศสูงขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
  • ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล (ส่งออกมากกว่านำเข้า)
  • นโยบายการเงินที่เข้มงวดและมีเสถียรภาพ
  • การไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศมากขึ้น

ค่าเงินอ่อน คืออะไร

ค่าเงินอ่อน คือ สภาวะที่เงินสกุลนั้นมีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น เมื่อค่าเงินบาทอ่อนค่า หมายถึงเงินบาทมีค่าน้อยลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น เช่น หากเมื่อวานใช้เงิน 35 บาทแลกได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่วันนี้ต้องใช้ถึง 37 บาทถึงจะแลกได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แสดงว่าเงินบาทมีค่าน้อยลงหรืออ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

สาเหตุที่ทำให้ค่าเงินอ่อน

  • ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจในประเทศลดลง
  • อัตราดอกเบี้ยในประเทศต่ำกว่าประเทศอื่น
  • ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล (นำเข้ามากกว่าส่งออก)
  • นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายหรือการดำเนินนโยบายการคลังขาดดุล
  • การไหลออกของเงินทุนจากประเทศมากขึ้น

ค่าเงินบาท อ่อนค่า vs. แข็งค่า ดูอย่างไร

ค่าเงินบาท อ่อนค่า vs. แข็งค่า ดูอย่างไร
  • อัตราแลกเปลี่ยน : ดูได้จากการเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับสกุลเงินอื่น โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐ หากต้องใช้เงินบาทน้อยลงในการแลกดอลลาร์ แสดงว่าบาทแข็งค่า
  • การเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติ : เมื่อมีเงินทุนไหลเข้าประเทศมากขึ้น มักส่งผลให้เงินบาทแข็งค่า
  • ดัชนีค่าเงินบาท (NEER/REER) : ดัชนีที่สะท้อนค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินต่าง ๆ
  • ข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ : ข่าวการปรับอัตราดอกเบี้ยของแต่ละประเทศ นโยบายการเงิน หรือสถานการณ์เศรษฐกิจโลก

ผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อเงินบาทแข็งค่าและอ่อนค่าลง

  1. การนำเข้าและส่งออก : เมื่อเงินบาทแข็งค่า การนำเข้าจะถูกลง แต่การส่งออกจะแพงขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อเงินบาทอ่อนค่า การนำเข้าจะแพงขึ้น แต่การส่งออกจะมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น
  2. การท่องเที่ยว : เงินบาทแข็งค่าทำให้การท่องเที่ยวในต่างประเทศถูกลงสำหรับคนไทย แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะรู้สึกว่าการมาเที่ยวไทยแพงขึ้น ส่วนเงินบาทอ่อนค่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพราะค่าใช้จ่ายถูกลง
  3. การลงทุนระหว่างประเทศ : เงินบาทแข็งค่า เหมาะกับการลงทุนหุ้นต่างประเทศ เพราะใช้เงินบาทน้อยลงในการซื้อสินทรัพย์ต่างประเทศ
  4. ค่าครองชีพ : เงินบาทอ่อนค่าอาจทำให้สินค้านำเข้ามีราคาสูงขึ้น ส่งผลต่อค่าครองชีพ
  5. การออมทอง : ราคาทองคำที่อิงกับดอลลาร์จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาท โดยเมื่อเงินบาทอ่อนค่า ราคาทองในบาทจะสูงขึ้น ทำให้ผู้ถือครองทองได้ประโยชน์

ภาคส่วนไหนที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่า

ความผันผวนของค่าเงินบาทส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในเศรษฐกิจไม่เท่ากัน บางภาคส่วนอาจได้ประโยชน์ในขณะที่บางภาคส่วนอาจได้รับผลกระทบในทางลบ

ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าขึ้น

  • ผู้นำเข้าสินค้าและบริการจากต่างประเทศ
  • ธุรกิจที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้า
  • ผู้บริโภคสินค้านำเข้า
  • ผู้ที่ต้องการไปเรียนหรือท่องเที่ยวต่างประเทศ
  • เทรดเดอร์ที่ลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ

ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าลง

  • ผู้ส่งออกสินค้าและบริการไปต่างประเทศ
  • อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ
  • ผู้ที่มีรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศ
  • เกษตรกรที่ส่งออกสินค้าเกษตร
  • เทรดเดอร์ที่ถือครองทองคำและสินทรัพย์ที่อิงกับสกุลเงินต่างประเทศ

นักลงทุนควรทำอย่างไรให้ได้เปรียบการผันผวนของค่าเงิน

นักลงทุนควรทำอย่างไรให้ได้เปรียบการผันผวนของค่าเงิน

นักลงทุนสามารถใช้วิธีวางแผนการเงินและกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะค่าเงิน เมื่อเงินบาทแข็งค่า อาจพิจารณาลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ เช่น หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ต่างประเทศ หรือกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากสามารถใช้เงินบาทจำนวนน้อยลงในการซื้อสินทรัพย์เหล่านั้น

ในทางกลับกัน เมื่อเงินบาทอ่อนค่า อาจเหมาะสมกับการลงทุนในสินทรัพย์ในประเทศ เช่น หุ้นไทยที่มีรายได้จากการส่งออก หรือบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท นอกจากนี้ การกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายประเภทและหลายสกุลเงินจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินได้

สรุปบทความ 

การเข้าใจความหมายและผลกระทบของค่าเงินแข็งและค่าเงินอ่อนเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการวางแผนการเงินและการลงทุนในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น เทรดเดอร์ที่มีความรู้เรื่องการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนสามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนและบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

หากคุณสนใจเรียนการเงินและพัฒนาทักษะด้านการเงินเพิ่มเติม The Success Man เป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะการเงินและความรู้ด้านการเงินที่พร้อมจะช่วยให้คุณเข้าใจตลาดการเงินได้ดียิ่งขึ้น ด้วยคอร์สที่เข้าถึงง่ายและเครื่องมือวิเคราะห์ตลาด FX และทองคำโดยผู้มีประสบการณ์ ติดต่อเราได้ที่ Facebook: The SuccessMan Investor 

แชร์บทความนี้

ยังไม่รู้ว่าควรเรียนคอร์สไหนดี? ทักปรึกษาได้เลยครับ