คุณสังเกตไหมว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาหารตามสั่งจานละเกือบร้อย ค่ารถโดยสารปรับราคาขึ้น แม้แต่สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันก็เพิ่มราคาตาม นี่คือสัญญาณของ “เงินเฟ้อ” ที่ส่งผลให้เงินในกระเป๋าเรามีมูลค่าลดลง หลายคนจึงตั้งคำถามว่า “เงินเฟ้อ ลงทุนอะไรดี” เพื่อรักษามูลค่าเงินและสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากธนาคาร บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจพร้อมแนะนำวิธีการลงทุนที่เหมาะสมในช่วงเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อ (Inflation) คืออะไร?
เงินเฟ้อ คือภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อำนาจซื้อ (Purchasing Power) ของเงินลดลง ทำให้เราต้องใช้เงินจำนวนมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าและบริการในปริมาณเท่าเดิม หากไม่มีการวางแผนทางการเงินที่ดี เงินเฟ้อจะกัดกินมูลค่าเงินออมของเราไปเรื่อย ๆ ทำให้เงินที่เก็บไว้มีค่าน้อยลง
สาเหตุ เงินเฟ้อ เกิดจากอะไร?
- ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น (Cost-Push Inflation) – เกิดจากวัตถุดิบ ทรัพยากรในการผลิตมีราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตาม เช่น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งและการผลิต
- ความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้น (Demand-Pull Inflation) – เมื่อความต้องการซื้อสินค้าและบริการมีมากกว่าปริมาณสินค้าที่มีอยู่ ทำให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น จากกลไกอุปสงค์และอุปทาน
- การเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินในระบบ – การที่รัฐบาลหรือธนาคารกลางอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากเกินไป ทำให้ปริมาณเงินมากกว่าปริมาณสินค้า ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อ
- นโยบายของรัฐบาล – การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และนโยบายภาครัฐ เช่น การขึ้นภาษี การปรับค่าแรงขั้นต่ำ อาจส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและราคาสินค้า
วิธีรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ
- วางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ – จัดทำงบประมาณ บันทึกรายรับ-รายจ่าย และตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับการออมและลงทุน
- รู้จักการลงทุนที่เหมาะสม – การฝากเงินอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในช่วงเงินเฟ้อสูง ควรพิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ
- พัฒนาทักษะและความรู้เพิ่มเติม – การเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองโดยการพัฒนาทักษะและความรู้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการหารายได้เพิ่ม
- ใช้เทคนิค SMC – แนวคิดในการวิเคราะห์ตลาดที่ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาและสามารถทำกำไรได้ดีขึ้น โดยใช้หลักการวิเคราะห์ Order Blocks และ Market Structure ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจเทรดฟอเร็กซ์ ในช่วงเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อมีผลต่อสินทรัพย์ลงทุนอย่างไร?
เงินเฟ้อส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลตอบแทนที่แท้จริงจากการลงทุน (Real Return) ซึ่งคำนวณจากผลตอบแทนทั้งหมดหักด้วยอัตราเงินเฟ้อ หากเงินเฟ้ออยู่ที่ 3-4% แต่การลงทุนให้ผลตอบแทนเพียง 1-2% นั่นหมายความว่าเรากำลังขาดทุนในแง่ของมูลค่าที่แท้จริง ด้วยเหตุนี้ การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เงินเฟ้อพุ่งสูง
เงินเฟ้อ ลงทุนอะไรดี?

เมื่อถามว่า “เงินเฟ้อ ลงทุนอะไรดี” คำตอบคือต้องมองหาสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อในระยะยาว ซึ่งมีหลายตัวเลือกดังนี้
1. ทองคำ
ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในช่วงเงินเฟ้อสูง เนื่องจากมีความมั่นคงและมูลค่าในตัวเอง ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าทองคำมักปรับตัวขึ้นในช่วงที่เงินเฟ้อสูง ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่าระหว่างปี 1971-2022 ทองคำให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.78% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่เฉลี่ย 3.70% ต่อปี นอกจากนี้ยังช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน เนื่องจากมักเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดหุ้น
2. อสังหาริมทรัพย์
อสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่มักปรับราคาขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ ทั้งในรูปแบบของมูลค่าทรัพย์สินและค่าเช่า ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการรักษามูลค่าเงินในระยะยาว ข้อดีคือราคาอสังหาริมทรัพย์มักไม่ผันผวนมากเหมือนตลาดหุ้น และยังสามารถสร้างรายได้จากค่าเช่าอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมักปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อได้
3. ตราสารหนี้
ในช่วงเงินเฟ้อสูง ตราสารหนี้ระยะสั้นอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าตราสารหนี้ระยะยาว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation-Linked Bonds) ยังเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะอัตราดอกเบี้ยและเงินต้นจะปรับเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ผู้ลงทุนได้รับการปกป้องจากภาวะเงินเฟ้อได้ดี
4. หุ้น
ถึงแม้ในช่วงเงินเฟ้อสูง ตลาดหุ้นอาจมีความผันผวน แต่การลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่มีความสามารถในการปรับราคาตามเงินเฟ้อได้ยังคงเป็นทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มปลอดภัย (Defensive Stock) เช่น กลุ่มสินค้าจำเป็น โรงพยาบาล สาธารณูปโภค ที่มักจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอและมีความผันผวนต่ำ การใช้เทคนิคการวิเคราะห์แนวรับ แนวต้าน จะช่วยให้เลือกจังหวะการลงทุนได้ดีขึ้น
5. กอง REIT
กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือ REIT เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงเงินเฟ้อ เนื่องจากสามารถสร้างผลตอบแทนจากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่มักปรับขึ้นตามเงินเฟ้อ ข้อมูลจาก FTSE NAREIT All Equity REIT Index พบว่าในช่วงเงินเฟ้อระดับ 2.5-7.0% กอง REIT ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 16% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อมาก ทำให้เป็นช่องทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แต่มีเงินทุนจำกัด
กลยุทธ์ลงทุนแบบ Defensive
การลงทุนแบบ Defensive เป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมในช่วงเงินเฟ้อสูงและตลาดผันผวน โดยมุ่งเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและมีเสถียรภาพ ซึ่งมักให้ผลตอบแทนไม่ผันผวนมากนักไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เช่น หุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภค อาหารและเครื่องดื่ม หรือการใช้เทคนิค Fibonacci ในการวิเคราะห์จังหวะเข้าลงทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางเทคนิคที่นิยมใช้ในการหาระดับ Harmonic Pattern สำหรับการวิเคราะห์การลงทุน
สรุปบทความ เงินเฟ้อ ลงทุนอะไรดี

เมื่อเจอสถานการณ์เงินเฟ้อสูง การรักษามูลค่าเงินให้ชนะเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญ การลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั้งทองคำ อสังหาริมทรัพย์ หุ้นคุณภาพดี ตราสารหนี้ที่เหมาะสม และกอง REIT จะช่วยให้พอร์ตการลงทุนของคุณรับมือกับเงินเฟ้อได้ดีขึ้นสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีเทรด Forex หรือการวิเคราะห์ TFEX สามารถเข้ามาศึกษาและพัฒนาทักษะได้ที่ The Success Man ศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะการเงินและความรู้ด้านการเงิน ที่มีทั้งคอร์สเรียน Basic FX & Gold และ Advance FX & Gold พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของตลาด โดยผู้มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี พร้อมช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพได้ ติดต่อเราได้ที่ Facebook: The SuccessMan Investor