ไขข้อสงสัย! ค่ากำเหน็จทอง คิดยังไง?

ไขข้อสงสัย! ค่ากำเหน็จทอง คิดยังไง?

ค่ากำเหน็จทอง คิดยังไง ทำไมเวลาซื้อทองถึงต้องจ่ายเพิ่มจากราคาทองปกติ? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกัน ตั้งแต่ค่ากำเหน็จทอง คืออะไร ต่างกับค่าบล็อกอย่างไร พร้อมสอนวิธีคำนวณแบบเข้าใจง่าย! 

ค่ากำเหน็จทอง คืออะไร

ค่ากำเหน็จทอง เป็นค่าแรงหรือค่าจ้างช่างทองที่ใช้ฝีมือในการแปรรูปทองคำแท่งให้กลายเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ โดยราคาจะแตกต่างกันตามความซับซ้อนของลวดลาย ความประณีต และรูปแบบของเครื่องประดับ ปัจจุบันค่ากำเหน็จมาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 500-800 บาทต่อน้ำหนักทอง 1 บาท สำหรับงานทั่วไป แต่หากเป็นลวดลายพิเศษที่ต้องใช้ความชำนาญสูง อาจมีค่ากำเหน็จสูงถึง 1,000-3,000 บาทต่อบาททองคำ

วิธีคิดค่ากำเหน็จทอง คิดยังไง

สูตรการคำนวณค่ากำเหน็จทองมีดังนี้

ราคาที่ต้องจ่าย = (ราคาทองคำ × น้ำหนักทองคำ) + (ค่ากำเหน็จต่อน้ำหนักทอง)

ตัวอย่างการคำนวณ

  • สร้อยทอง 1 บาท ราคาทองบาทละ 43,650 บาท* ค่ากำเหน็จ 800 บาท = (43,650 × 1) + 800 = 44,450 บาท
  • แหวนทอง 2 สลึง ราคาทองบาทละ 43,650 บาท* ค่ากำเหน็จ 800 บาท = (43,650 × 0.5) + 800 = 22,625 บาท

*ราคาทองรูปพรรณ 1 บาทไม่รวมค่ากำเหน็จ ณ วันที่ 9 มกราคม 2558

ค่าบล็อก คืออะไร

ค่าบล็อก เป็นค่าแรงในการผลิตทองคำแท่ง ซึ่งมีราคาถูกกว่าค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ เนื่องจากกระบวนการผลิตไม่ซับซ้อน โดยทั่วไปค่าบล็อกจะอยู่ที่ประมาณ 100-400 บาทต่อน้ำหนักทอง 1 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านเป็นผู้กำหนด

วิธีคิดค่าบล็อก คิดยังไง

สูตรการคำนวณค่าบล็อก

ราคาที่ต้องจ่าย = (ราคาทองคำ × น้ำหนักทองคำ) + ค่าบล็อก

ตัวอย่างเช่น 

ซื้อทองแท่งน้ำหนัก 1 บาท ราคาทองบาทละ 43,650 บาท* ค่าบล็อก 200 บาท = (43,650 × 1) + 200 = 43,850 บาท

*ราคาทองแท่ง 1 บาทไม่รวมค่ากำเหน็จ ณ วันที่ 9 มกราคม 2558

การซื้อทองรูปพรรณ ต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง

เมื่อซื้อทองรูปพรรณ ผู้ซื้อจะต้องจ่ายค่าใช้จ่าย 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ค่าทองคำตามน้ำหนัก และค่ากำเหน็จ ซึ่งแต่ละส่วนมีรายละเอียดดังนี้

ค่าทองคำ หรือน้ำหนักทองตามราคาขายทองรูปพรรณ

ราคาทองคำจะอ้างอิงตามราคาตลาดโลกและค่าเงินบาท โดยสมาคมค้าทองคำจะประกาศราคากลางทุกวัน ซึ่งร้านทองจะใช้เป็นเกณฑ์ในการกำหนดราคาซื้อ-ขาย น้ำหนักทองคำจะคิดเป็นบาท สลึง ซึ่งเป็นหน่วยวัดมาตรฐาน

ค่ากำเหน็จ 

ค่ากำเหน็จ คือค่าแรงฝีมือช่างที่ต้องจ่ายเพิ่มจากค่าทองคำ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของลวดลายและรูปแบบเครื่องประดับ

ลงทุนในทองแบบไหนดี?

ปัจจุบันการลงทุนในทองมีหลากหลายรูปแบบ แต่ละวิธีมีข้อดีแตกต่างกันไปตามเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน มาดูแต่ละวิธีกันอย่างละเอียดว่าคุณเหมาะกับการลงทุนแบบไหน

1. ซื้อทองคำแท่ง/ทองรูปพรรณ

การถือครองทองคำในรูปแบบนี้เป็นวิธีดั้งเดิมที่นิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากสามารถนำไปขายได้ทันทีที่ต้องการ อีกทั้งยังมีความคงทนไม่เสื่อมสภาพ เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้และสามารถนำไปเป็นของมีค่าถ่ายทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน โดยเฉพาะทองรูปพรรณที่สามารถใช้เป็นเครื่องประดับได้ อย่างไรก็ตาม การเก็บทองในรูปแบบนี้จำเป็นต้องมีที่เก็บที่ปลอดภัย มีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา และต้องระมัดระวังเรื่องการสูญหายหรือถูกโจรกรรม นอกจากนี้ยังมีค่ากำเหน็จหรือค่าบล็อกที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมอีกด้วย

2. ออมทอง

ออมทองคืออะไร? การออมทองเป็นโครงการที่ช่วยให้สามารถทยอยเก็บทองคำได้ทีละน้อย โดยเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนไม่มากก็ทำได้ มีความยืดหยุ่นในการออมและสามารถกำหนดระยะเวลาการออมได้ตามต้องการ ข้อดีคือไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษา และเมื่อครบกำหนดสามารถเลือกรับเป็นทองคำหรือเงินได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาเงื่อนไขของแต่ละแพลตฟอร์มให้ดี เนื่องจากอาจมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ หรือควรเลือกร้านทอง หรือแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ

3. หุ้นทองคำ

หุ้นทองคำ คือการเก็บทองในรูปแบบของหลักทรัพย์ที่อ้างอิงราคาทองคำเป็นวิธีเทรดทองที่มีสภาพคล่องสูงและซื้อขายง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษา มีความโปร่งใสในการกำหนดราคา และสามารถซื้อขายผ่านแอปพลิเคชั่นได้สะดวก อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจจำเป็นต้องศึกษากลไกการเคลื่อนไหวของราคา เข้าใจค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และต้องยอมรับได้กับความผันผวนของราคาตามสภาวะตลาดได้

4. การเทรดทอง Forex

เทรดทองในตลาด Forex เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากตลาดเปิดทำการ 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ สามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ และมีความยืดหยุ่นในการเข้าออกตลาด เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์ตลาด โดยเฉพาะการเทรดทองระยะสั้น ซึ่งต้องมีทักษะการใช้แพลตฟอร์มการซื้อขายสูง และพร้อมที่จะศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง การบริหารความเสี่ยงที่ดีถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรดในรูปแบบนี้

การเลือกวิธีที่เหมาะสมควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งเป้าหมายระยะเวลา จำนวนเงินที่พร้อมเริ่มต้น ความรู้ความเข้าใจในการเทรดแต่ละรูปแบบ เวลาที่มีในการติดตามตลาด และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สิ่งสำคัญคือควรศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนเริ่มต้น เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง การมีความรู้ที่แน่น มีทักษะที่เพียงพอ จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมาย และมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า

เรียนรู้การลงทุนในทองคำ กับ The Success Man

ที่ The Success Man เรามีหลักสูตรสอนการวิเคราะห์ทองคำแบบครบวงจร ทั้งคอร์ส Basic FX & Gold และ Advance FX & Gold ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจการเทรดทองคำ ด้วยค่าเรียนเพียง 599 และ 899 บาทต่อปี เรียนได้ไม่จำกัดครั้งทั้ง Offline และ Online พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ที่พัฒนาโดยผู้มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี

สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทองคำ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ The Success Man ศูนย์การเรียนรู้ด้านการเงินที่พร้อมถ่ายทอดความรู้อย่างครบถ้วน ติดต่อเราได้ที่ Facebook: The SuccessMan Investor 

แชร์บทความนี้

ยังไม่รู้ว่าควรเรียนคอร์สไหนดี? ทักปรึกษาได้เลยครับ